รับประทาน “ฟรุ๊กซ์โทรส” ยังไง ลดอ้วน หยุดโรคเบาหวาน

ยังอยู่ในตอนเทศกาลที่ความรัก เลยต้องการชักชวนคุณมาคุยเรื่องหวานๆกันหน่อย โน่นเป็นเรื่อง “น้ำตาล” จ้ะ แต่ว่ามิได้ให้ความสำราญไปเสียทั้งปวง รับประทานมากมายไปคุณอาจได้ของสมนาคุณเป็นโรคอ้วน เบาหวาน แล้วก็โรคเรื้อรังจำพวกอื่นๆตามมาด้วย

 

ชีวจิตต้องการให้ท่านคนอ่านมีความสำราญ รวมทั้งยังจำเป็นต้องสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงตลอดกาลด้วย ก็เลยขอชักชวนให้ทุกคนยืนขึ้นมาเปลี่ยนแปลงการกระทำการกินหวานกันเสียใหม่ รับประทานเช่นไรให้อร่อยแล้วก็ได้สุขภาพ มีวิธีการดังต่อไปนี้

 

รู้เรื่องน้ำตาล…หวานแบบมีที่มา

 

นํ้าตาลเป็นคาร์โบไฮเดรตหน่วยย่อยที่เล็กที่สุด จัดเป็น “พลังงานเสียเปล่า” เพราะให้แม้กระนั้นพลังงานสิ่งเดียวแต่ว่าไม่ให้สารอาหารจำพวกอื่นพูดอีกนัยหนึ่งนํ้าตาล 1 กรัมให้พลังงานทั้งผอง 4 กิโลแคลอรี

 

เพื่อไขปัญหารูปแบบน้ำตาลให้แจ่มกระจ่างเพิ่มขึ้น ศ.จ.ศราวุตำหนิ จิตรภักดิ์สาขาวิชาวิชาชีวเคมีคณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล ชี้แจงให้ฟังดังต่อไปนี้

 

พวกเราสามารถแบ่งน้ำตาลได้ตามลักษณะทางเคมีเป็น

 

นํ้าตาลโมเลกุลเชิงลำพัง(Monosaccharaides) เช่นเดกซ์โทรส (Glucose)เลวูโลส (Fructose)และก็กาแลคโทส(Galactose)

 

นํ้าตาลโมเลกุลเชิงคู่ (Disaccharides) ดังเช่นซูโครส (sucrose)หรือนํ้าตาลทรายน้ำตาลมอลโตส (Maltose) รวมทั้งน้ำตาลแลกเปลี่ยนโตส(Lactose) ฯลฯ

 

น้ำตาลเดกซ์โทรส…เจ้าที่พลังงาน

 

น้ำตาลเดกซ์โทรสหรืออาจเรียกว่า น้ำตาลกลูโคส (Dextrose) เป็นน้ำตาลโมเลกุลเชิงผู้เดียวมีความหวานสัมพัทธ์พอๆกับ 70-80 เป็นความหวานระดับปานกลาง

 

คุณครูสาทิส อินทรกำแหง เรารูเจ้าตำรับชีวจิต ชี้แจงเอาไว้ภายในบทความ น้ำตาลไม่หวาน 2 ยิ่งหวานยิ่งเจ็บไข้มากมาย ในคอลัมน์ ปั้นชีวิตใหม่ด้วยชีวจิต หนังสือพิมพ์ไทยเมือง ฉบับวันที่ 26 เดือนมิถุนายน พุทธศักราช2544 ว่า

 

น้ำตาลเดกซ์โทรสนี้เป็นน้ำตาลในเลือด (Blood Sugar)ที่ร่างกายสามารถย่อยและก็ซับได้เร็วที่สุด มีความจำเป็นมากมายต่อชีวิตเพราะเหตุว่าเป็นแหล่งพลังงานของเซลล์ภายในร่างกาย และก็ทำให้มีพลังวังชารวมทั้งเรี่ยวแรงดำเนินการ

 

น้ำตาลเดกซ์โทรสเจอในอาหาธรรมชาติ อย่างเช่น ผลไม้และก็ของกินชนิดแป้ง

 

น้ำตาล, โรคเบาหวาน, เบาหวาน, diabetes, สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง วงจรเดกซ์โทรส

 

ย่อยเช่นไรได้สุขภาพ

 

หนังสือ เราแน่ ของ คุณครูสาทิส อินทรกำแหง สถานที่พิมพ์สถานพยาบาลบ้านแล้วก็สวน ชี้แจงการสรุปยแป้งเป็นน้ำตาลเดกซ์โทรส สรุปว่า

 

เมื่อพวกเรารับประทานแป้ง โปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีไทยาลิน (Ptyalin) จะเป็นตัวเริ่มต้น (Catalyst) กระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีในปาก อย่างย่อยแป้งให้เป็นน้ำตาลเดกซ์โทรส หลังจากนั้น ของกินต่างๆจะถูกส่งลงไปที่หลอดของกิน กระเพาะ ไปสู่ลำไส้เล็ก

 

คุณครูศราวุฒิชี้แจงต่อว่าต่อขาน

 

รอบๆลำไส้เล็กจะผลิตโปรตีนที่ทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยาเคมีมอลเทส(Maltase)เพื่อย่อยแป้งหรือน้ำตาลมอลโตสให้เป็นน้ำตาลโมเลกุลโดดเดี่ยวเป็นน้ำตาลเดกซ์โทรส 2 โมเลกุล แล้วจะซับน้ำตาลเดกซ์โทรสรอบๆเยื่อบุฝาผนังลำไส้เล็ก ก่อนลำเลียงไปสู่เส้นเลือดฝอย แล้วหลังจากนั้นส่งต่อไปที่เส้นเลือดดำพอเพียงร์ทัล (Portal Vain)

 

น้ำตาลเดกซ์โทรสเล็กน้อยถูกใช้เป็นพลังงาน นิดหน่อยนำไปสร้างสารอื่นๆที่เหลือจะถูกเก็บเอาไว้ภายในรูปสารเคมี 2 จำพวกเป็น ไกลวัวเจน (Glycogen) สะสมไว้ที่ตับแล้วก็กล้าม และก็กรดไขมันสะสมเอาไว้ในเซลล์ไขมันทั่วร่างกาย

 

เมื่อร่างกายอยากพลังงาน ดังเช่นอยู่ในสภาวะไม่กินอาหารหรือระหว่างบริหารร่างกายตับจะเปลี่ยนแปลงไกลวัวเจนเป็นน้ำตาลเดกซ์โทรสแล้วลำเลียงไปสู่กระแสโลหิต รวมทั้งส่งไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆทั่วร่างกาย ส่วนไกลวัวเจนในกล้ามจะกลายเป็นพลังงานหล่อเลี้ยงด้านในกล้ามนั้นๆเอง

 

คุณครูศราวุฒิ ชี้แจงต่อว่าต่อขาน แม้กระนั้นตรงกันข้าม ถ้าเกิดพวกเราดื่มน้ำตาลเดกซ์โทรสมากจนเกินไปและไม่บริหารร่างกาย จะยิ่งทำให้มีเดกซ์โทรสส่วนเกินที่จะกลายเป็นไกลวัวเจนหรือไขมันไปสะสมตามอวัยวะต่างๆอาทิเช่น ตับ นำไปสู่ภาวการณ์ไขมันเกาะตับ หรือเป็นโรคอ้วนตามมา

 

ยิ่งกว่านั้น การหรูหราน้ำตาลเดกซ์โทรสที่สูงเหลือเกิน ยังทำให้เกิดผลเสียต่อแนวทางการทำงานของเซลล์ในกาสนองตอบต่อฮอร์โมนอินซูลินซึ่งจะหลั่งจากเซลล์ตับอ่อน ฮอร์โมนอินซูลินหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลเดกซ์โทรสในกระแสโลหิต โดยออกคำสั่งให้กล้ามแล้วก็เยื่อไขมันซึมซับน้ำตาลเดกซ์โทรสจากกระแสโลหิตมาเก็บไว้เป็นพลังงาน ก็เลยสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เข้าขั้นธรรมดาได้

 

ด้วยเหตุนี้เมื่อเซลล์ไม่สนองตอบต่อฮอร์โมนอินซูลินแล้วในระยะยาวจะทำกำเนิดเบาหวานท้ายที่สุด

 

How to Eat

 

คุณธิษณา จรรยาชัยเลิศเลอ นักระบุของกินวิชาชีพ ชี้แจงว่า ด้วยเหตุว่าพวกเราไม่สามารถที่จะรู้จำนวนน้ำตาลเดกซ์โทรสในของกินชนิดแป้งได้ ก็เลยเสนอแนะให้ทานอาหารจำพวกแป้งตามหลักของของกินเปลี่ยนเพื่อร่างกายได้รับคาร์โบไฮเดรตซึ่งจะกลายเป็นน้ำตาลเดกซ์โทรสที่สมควรต่อสิ่งที่ต้องการของร่างกาย

 

ข้อมูลที่ได้มาจาก นิตยสารโภชนาการบำบัดรักษา เมืองไทย แนะนำตัวอย่างของกิน จำนวน 1 ส่วน ที่ให้คาร์โบไฮเดรต(ย่อยเป็นเดกซ์โทรส) 18 กรัม ได้พลังงาน 72 กิโลแคลอรี แม้กระนั้นเพราะมีโปรตีน 2 กรัม รวมให้พลังงานทั้งหมดทั้งปวง 80 กิโลแคลอรี

 

คนเจ็บโรคเบาหวานหรือผู้อยากได้ควบคุมระดับน้ำตาลสามารถทานอาหารแลกกลุ่มนี้ได้วันละ 6-8 ส่วน (สามารถสลับกันได้) ดังต่อไปนี้

 

ข้าวสุก รวมทั้งข้าวกล้อง (มีใยอาหารสูง) จำนวน 1/3 ถ้วยตวง (55 กรัม)

ขนมจีนข้าวซ้อมมือ จำนวน 1 จับใหญ่ (90กรัม)

กวยเตี๋ยวเส้นข้าวซ้อมมือลวก จำนวน 2/3 ถ้วยตวง (90กรัม)

ขนมปังโฮลวีต(มีใยอาหารสูง) จำนวน 1 แผ่น (25 กรัม)

มักกะโรนี และก็สปาเกตตีโฮลวีตลวก จำนวน 2/3 ถ้วยตวง (75 กรัม)

 

ผลไม้รสหวาน, โรคเบาหวาน, เบาหวาน, diabetes, ร่างกายแข็งแรง10 ชั้นผลไม้เดกซ์โทรสสูง

 

เว้นเสียแต่ได้รับน้ำตาลเดกซ์โทรสจากของกินชนิดแป้งแล้ว พวกเราก็ได้โอกาสได้รับน้ำตาลเดกซ์โทรสจากผลไม้ได้ด้วย ข้อมูลงานศึกษาทำการค้นคว้าและทำการวิจัยของ รศ. ดร.ราตร แม่น้ำคงคารำฉุยฉาย และก็คุณครูริญ ufabet ก้าวหน้าศรีในคู่มือดูแลรักษาสุขภาพร่างกายด้วยของกิน : โภชนาการกับผลไม้ สถานที่พิมพ์สารคดี พบว่า ผลไม้มีน้ำตาลอยู่ 3 จำพวก เป็นน้ำตาลเดกซ์โทรส น้ำตาลเลวูโลส รวมทั้งน้ำตาลซูโครส

 

โดยเจอผลไม้ 10 จำพวกที่มีจำนวนน้ำตาลเดกซ์โทรสมากที่สุด ดังต่อไปนี้

 

ผลไม้(100 กรัม) น้ำตาลเดกซ์โทรส จำนวนน้ำตาลทั้งปวง(กรัม) ปริมาณน้ำตาล

 

ทั้งสิ้นเปรียบเทียบเป็นปริมาณช้อนชา

 

1 มะขามหวานสีทองคำ 24.6 53.3 13 ช้อนชา

 

2 กล้วยหอม 10.3 20.3 5 ช้อนชา

 

3 ลิ้นย่างพระราชาธิราช 8.4 17.9 4.5 ช้อนชา

 

4 น้อยหน่าฝรั่ง 8.4 17.2 4.3 ช้อนชา

 

5 กล้วยน้ำว้า 8.0 18.3 4.5 ช้อนชา

 

6 องุ่นเขียว 7.5 14.7 4 ช้อนชา

 

7 ลิ้นจีฮงฮวย 7.0 14.3 3.5 ช้อนชา

 

8 ทดลองกอง 6.9 15.2 4 ช้อนชา

 

9 ขนุน 6.4 19.1 5 ช้อนชา

 

10 กล้วยไข่ 6.3 16.6 4 ช้อนชา

 

หมายเหตุ น้ำตาลหนัก 4 กรัม มีจำนวนพอๆกับ 1 ช้อนชา

 

องค์การอนามัยโลกเสนอแนะว่า ในเด็กที่อยากดูแลรักษาสุขภาพร่างกายแล้วก็ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่สมควรดื่มน้ำตาลส่วนเกินวันละ 4 ช้อนชา ในคนแก่ไม่สมควรรับประทานวันละ 6 ช้อนชา